อย่างว่อง ! จับแล้ว ชิงทรัพย์กรุงไทยหนองบัว

วานนี้(6 ก.ค.2558) เวลาประมาณ 19.00 น.   พ.ต.อ.สุกฤษฎ์   บุญทรง  รอง ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์  , น.ส.กันตรัตน์  เริ่มสูงเนิน นายอำเภอหนองบัว  , พ.ต.อ.นิติศักดิ์   แก้วอ้น  ผกก.สภ.หนองบัว  พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.นครสวรรค์ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.หนองบัว  ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัวคนร้าย  เหตุชิงทรัพย์ ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาหนองบัว 

     เหตุเกิดวันที่ 6 ก.ค.2558   เวลาประมาณ 09.20 น. คนร้ายเป็นชายสวมหมวกไหมพรมคลุมใบหน้า และใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุ ได้ทรัพย์สินเป็นเงิน จำนวน 40,000 บาท แล้วขับรถจักรยานยนต์ แบบหญิง หลบหนีไป ซึ่งในเวลาต่อมาได้ร่วมกันติดตามจับกุมตัว 

     นายประสงค์(นามสมมุติ)  อายุ 32 ปี  อยู่ที่ ม.10 ต.ห้วยร่วม อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์  ได้ที่บริเวณกลางทุ่งนา ม.6 ต.หนองบัว อ.หนองบัว จว.นครสวรรค์ พร้อมด้วยของกลาง 

• เงินสดจำนวน 40,000 บาท 
• อาวุธปืนลูกซองสั้น จำนวน 1 กระบอก  
• เครื่องกระสุนปืนขนาดเบอร์ 12 จำนวน 8 นัด  

     สอบถามนายประสงค์ฯ  รับว่า วันนี้เวลาประมาณ 08.00 น. ได้เดินทางออกจากบ้าน มาดักรอเพื่อชิงรถจักรยานยนต์ ที่ ม.11 ต.ห้วยร่วม อ.หนองบัว จว.นครสวรรค์ ต่อมาได้มีนางอุทัย  ธรรมรงค์รัตน์  อายุ 55 ปี  ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา จึงใช้อาวุธปืนจี้ชิงรถจักรยานยนต์ดังกล่าว แล้วขับขี่มุ่งหน้าไปที่ธนาคารกรุงไทย สาขาหนองบัว เมื่อมาถึงได้เข้าไปในธนาคาร แล้วใช้อาวุธปืนจี้ชิงเงินจากผู้มาฝากเงินธนาคาร จำนวน 40,000 บาท แล้วได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี  และนำรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไปจอดทิ้งไว้ บริเวณถนนริมคลอง  บ้านหนองเสือ ม.6 ต.หนองบัว อ.หนองบัว จว.นครสวรรค์  แล้วเดินเข้าไปหลบในท่อระบายน้ำ ห่างจากจุดทิ้งรถประมาณ 1 กิโลเมตร จุดที่ตำรวจจับกุมตัวได้

     ต้องยกย่องฝีมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองบัว  ที่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่ชั่วโมง สร้างความเชื่อมั่นให้กับสุจริตชน และป้องปรามผู้ที่คิดจะกระทำผิด   ทั้งนี้ในสภาพเศรษฐกิจย่ำแย่  สินค้าการเกษตรตกต่ำ  การห้ามทำนา  การตกงาน  อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการกระทำผิดในครั้งนี้  ขอให้เรา ๆ ท่าน ๆ หาทางป้องกันทรัพย์สินของตนเองให้ดี ไม่ประมาทด้วยครับ