เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 59 พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาปฏิบัติราชการ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยกล่าวหลังรับฟังการสรุปบรรยายสถานการณ์น้ำในพื้นที่ว่า กรมชลประทานของบประมาณขุดลอกห้วยทับเสลา 284 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ขอขอบคุณชาวอุทัยธานี ที่ให้ร่วมมือกับรัฐบาล ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำเกษตร หันไปปลูกพืชใช้น้ำน้อย เพื่อรับมือปัญหาภัยแล้งในช่วงนี้
นอกจากนี้ ยังสั่งการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ศึกษาผลดีผลเสียโครงการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ รวมถึงทางเลือกอื่น หากไม่ต้องสร้างเขื่อน ซึ่งผลการศึกษาก่อนหน้านี้ พบว่าการสร้างเขื่อนแม่วงก์จะทำให้เสียพื้นที่ป่า 10,000 ไร่ แต่จะได้พื้นที่ทำการเกษตร 3 แสนไร่ และอยากให้องค์กรภาคเอกชนร่วมศึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อลดความขัดแย้ง โดยย้ำว่ารัฐบาลไม่มีธงในใจเรื่องการสร้างเขื่อนแห่งนี้
ขอบคุณข่าวจาก VoiceTV http://news.voicetv.co.th/thailand/331854.html
สำหรับเขื่อนแม่วงก์นั้นมีการศึกษา และขัดแย้งกันมานานหลายสิบปีแล้ว คงต้องรอดูกันต่อไปว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร เรื่องนี้ต้องฟังคนในพื้นที่ด้วยส่วนหนึ่ง หากจะอ้างว่าการลดพื้นที่ป่าเป็นของคนทั่วประเทศ ต้องฟังทุกภาคส่วน ก็ต้องถามกลับเหมือนกันครับว่าการสร้างห้างสรรพสินค้าใน กทม. ซึ่งใช้ไฟฟ้าของคนทั้งประเทศ ได้เคยถามคนจังหวัดอื่นหรือไม่ สร้างรถไฟฟ้า ทางด่วน ที่ใช้ทรัพยากรของจังหวัดอื่นมาถมกรุง ได้ถามกันบ้างหรือไม่ อย่างไร
ถ้าไม่ให้สร้างก็ตัดจบโครงการนี้ไปเลยครับ ศึกษาเสียเงินทองไปหลายสิบ หลายร้อยล้านแล้ว แต่จะปรับรูปแบบเป็นอย่างไร ก็มีทางแก้ปัญหาให้คนในพื้นที่ด้วยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น