หลายท่านคงเห็นภาพรถไฟไทยจอดเทียบกับรถไฟมาเลเซีย ที่สถานีรถไฟปาดังเบซาร์ จนเกิดกระแสวิจารณ์ถึงความด้อยพัฒนาของการรถไฟของประเทศไทย เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ใกล้เคียงกัน ทั้ง ๆ ที่ รถไฟไทย นั้นเริ่มพัฒนาก่อนใครในภูมิภาคนี้
รถไฟไทยตามรูปนั้น เป็นรถไฟที่ลากจูงด้วยหัวรถจักรเครื่องยนต์ดีเซล มีความเร็วสูงสุดที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ในความเป็นจริงแล้วจะวิ่งเฉลี่ยไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ส่วนรถไฟมาเลเซียตามรูปนั้นเป็นรถไฟระบบไฟฟ้า ที่มีความเร็วเฉลี่ย 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยรถไฟทั้งสองประเทศนั้นวิ่งบนรางขนาด 1 เมตรเท่ากัน
เคยมีความพยายามพัฒนาการรถไฟไทย ที่ง่ายที่สุดคือ รถไฟรางคู่ ที่ดำริจะสร้างกันมานับสิบ ๆ ปี แต่ก็ไม่ได้ทำเสียที เพราะการเมืองไม่มีเสถียรภาพ เปลี่ยนรัฐบาลบ่อย ถ้าสร้างได้แล้วนั้นจะร่นระยะเวลาในการเดินทางจาก กทม. - นครสวรรค์ ได้นับชั่วโมงเลยทีเดียว(สำหรับรถไฟธรรมดา)
ส่วนการพัฒนาเป็นรถไฟความเร็วสูงนั้นก็เกือบจะได้ทำ แต่สุดท้ายแล้วคงต้องให้ถนนลูกรังหมดไปเสียก่อน ตามที่ศาลรัฐนูญได้กล่าวไว้(เมื่อไหร่จะได้สร้าง ?) แม้รัฐบาลทหารชุดนี้ก็พยายามจะนำโครงการรถไฟความเร็วสูงมาดำเนินการ แต่ก็ยังไม่เห็นความคืบหน้าแต่ประการใด แล้วคำถามที่เคยมีว่า จะใช้เงินจากไหน , ความคุ้มค่า , ต้องเป็นหนี้กี่ชั่วอายุคน คำถามเหล่านี้ไม่รู้ว่ายังคงอยู่หรือไม่ แล้วตกลงเราจะได้พัฒนารถไฟไทยกันเมื่อใด
หรือจะเก็บไว้เป็นความวินเทจ เป็นมรดกโลกดี 555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น